ความรู้สู่ประชาชน

ภาวะซีดในเด็กทารกแรกเกิด

พญ.หรรษมน โพธิ์ผ่าน

หน่วยโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์

ภาวะซีดหรือภาวะโลหิตจางนั้นเป็นภาวะที่พบได้บ่อยทางโลหิตวิทยา โดยทั่วไปภาวะซีดในเด็กหมายถึงภาวะที่มีความเข้มข้นของเลือด หรือมีปริมาณเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าค่าปกติตามช่วงอายุ ซึ่งภาวะซีดนั้นไม่ได้เกิดได้เฉพาะในผู้ใหญ่ หรือในเด็กโต เด็กทารกแรกเกิดก็มีโอกาสที่จะเกิดภาวะซีดได้เช่นเดียวกัน โดยภาวะซีดในเด็กทารกแรกเกิดนั้นมักไม่ได้เกิดจากการขาดธาตุเหล็กดังที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กหรือเด็กโต ดังนั้นหากเกิดภาวะซีดขึ้นก็จะมีความจำเป็นที่จะต้องหาสาเหตุเพื่อทำการรักษาต่อไป

สาเหตุของภาวะซีดในเด็กทารกแรกเกิด

  1. ซีดจากการเสียเลือด ไม่ว่าจะเป็นการเสียเลือดตั้งแต่ก่อนคลอดจากการถ่ายเทเลือดไปที่รก หรือถ่ายเทเลือดไปที่ฝาแฝดร่วมรกในกรณีที่เป็นทารกแฝด หรืออาจเป็นการเสียเลือดระหว่างการคลอดจากการทำคลอด จากการถ่ายเทเลือดไปที่สายสะดือ หรือเกิดหลังคลอดในกรณีที่มีการกระทบกระเทือนที่ตัวทารกหลังคลอด
  2. ซีดจากการที่เม็ดเลือดแดงแตก เช่น โรคผนังเซลล์ของเม็ดเลือดแดงมีความผิดปกติ โรคเม็ดเลือดแดงแตกง่ายอื่นๆ เช่น ธาลัสซีเมียชนิดอัลฟ่า หรือเม็ดเลือดแดงแตกจากการที่มีภูมิคุ้มกันทำลายเม็ดเลือดแดงในกรณีที่เลือดแม่และลูกไม่เข้ากัน
  3. ซีดจากการที่ทารกผลิตเม็ดเลือดแดงได้น้อยกว่าปกติ เช่น มีความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดแดงแต่กำเนิด สร้างเม็ดเลือดแดงน้อยลงจากการติดเชื้อ จากยา หรือเกิดจากภาวะคลอดก่อนกำหนด

จะทราบได้อย่างไรว่าทารกมีภาวะซีด

ทารกที่มีภาวะซีดหรือมีภาวะโลหิตจาง จะมีสีที่ดูซีดลงโดยเฉพาะที่บริเวณเยื่อบุต่างๆ เช่น ริมฝีปาก ลิ้น เยื่อบุตา ในบางรายอาจจะมีตัวเหลืองตาเหลืองร่วมด้วย ทารกอาจจะมีอาการกระสับกระส่าย ไม่ค่อยยอมดูดนม น้ำหนักไม่ค่อยขึ้นถึงแม้จะให้นมอย่างเต็มที่แล้ว หรือแม้กระทั่งมีอาการเขียวหรือหยุดหายใจ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรรีบพามาพบแพทย์ แพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจวัดสัญญาณชีพ วัดความดัน ชีพจร และทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาภาวะซีดและสาเหตุต่อไป

การดูแลรักษาภาวะซีดในเด็กทารกแรกเกิด

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาผู้ป่วยทารกแรกเกิดที่มีภาวะซีดได้แก่ การวินิจฉัยหาสาเหตุ โดยทั่วไปจะอาศัยการซักประวัติการคลอด ประวัติปัจจุบัน ประวัติเลือดออกผิดปกติ รวมถึงประวัติการฝากครรภ์ของมารดาและประวัติครอบครัว อาศัยการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และอาศัยการเจาะเลือดเพื่อดูความเข้มข้นของเลือด ดูสไลด์เลือดเพื่อดูลักษณะของเม็ดเลือดแดง ซึ่งลักษณะของเม็ดเลือดแดงในแต่ละโรคจะมีความแตกต่างกัน (ดังตัวอย่างตามภาพ) รวมถึงอาจมีความจำเป็นต้องเจาะเลือดบิดามารดาเพื่อมองหาสาเหตุที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และอาจมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ เพิ่มเติม ตามแต่สาเหตุจำเพาะของภาวะซีดที่สงสัยต่อไป

 

การให้การรักษาภาวะซีดนั้น ก็ขึ้นกับสาเหตุเป็นหลัก โดยการรักษาอาจเป็นการให้ยากิน การให้ธาตุเหล็ก แต่ส่วนใหญ่หากมีภาวะซีดมาก หรือทารกมีสัญญาณชีพเปลี่ยนแปลงก็มีความจำเป็นที่จะต้องให้เลือดทางเส้นเลือดดำเพื่อให้ความเข้มข้นเลือดเพิ่มสูงขึ้นและสัญญาณชีพกลับสู่ภาวะปกติ ร่วมไปกับการรักษาสาเหตุของภาวะซีดต่อไป

  

ภาพตัวอย่างสไลด์เลือดในโรคธาลัสซีเมีย(ซ้าย) และโรคผนังเซลล์เม็ดเลือดแดงผิดปกติแต่กำเนิดชนิดสเฟียร์โรไซต์(ขวา) ซึ่งมีลักษณะเม็ดเลือดแดงแตกต่างกัน